บริหารจัดการอาคาร: ปัญหาคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงาน ควรแก้ไขอย่างไรให้ปลอดภัย สำหรับสภาพอากาศของประเทศไทยนั้น ไม่ต้องกล่าวถึงทุกคนก็คงรู้กันดีว่าแทบจะร้อนอบอ้าวตลอดทั้งปีเลยทีเดียว ซึ่งภายใต้สภาพอากาศแบบนี้ สิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือแอร์หรือเครื่องปรับอากาศนั่นเอง เพราะหากขาดไปก็คงจะลำบากอยู่ไม่น้อย
ด้วยเหตุนี้เองหลาย ๆ บ้านจึงเลือกติดตังแอร์เพื่อปรับอากาศภายในบ้านให้เย็นสบายและไม่ต้องทรมานกับความร้อน แต่ทั้งนี้บางบ้านก็อาจจะเคยเจอปัญหาแอร์ไม่เย็น หรือเย็นไม่ได้ดั่งใจที่คาดหวังเอาไว้ ไม่ว่าล้างแอร์ยังไงก็ยังไม่เย็นขึ้นเสียที จนลืมสังเกตไปว่าคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงานต่างหากที่ทำให้แอร์ไม่เย็น
เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดมากที่สุด จึงจำเป็นต้องสืบหาสาเหตุที่แท้จริงว่า คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงานเกิดมาจากสาเหตุใด ดังนั้นจะพาคุณมารู้จักบรรดาสาเหตุที่ส่งผลให้คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงานกันว่ามีอะไรบ้าง
1. คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงาน เพราะใช้แอร์หนักเกินไป
เคยหรือไม่ ล้างแอร์เท่าไหร่แอร์ก็ยังไม่เย็นเสียที อย่างที่เรารู้กันดีว่าในปัจจุบันนี้มีผู้คนไม่น้อยที่เลือกทำงานอยู่ที่บ้านเป็นหลัก อีกทั้งบางคนยังมีไลฟ์สไตล์การทำกิจกรรมต่าง ๆ อยู่ภายในบ้าน และเมื่อใช้เวลาอยู่ในบ้านมากเท่าไหร่ การใช้งานแอร์ก็ยาวนานขึ้นตามไปด้วย จึงกลายเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงาน เนื่องจากใช้งานแอร์หนักเกินไปนั่นเอง
วิธีแก้ปัญหาจากการใช้แอร์หนักเกินไป
วิธีการแก้ปัญหาคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงานเนื่องจากการใช้งานแอร์ที่หนักเกินไปนั้นสามารถทำได้โดยการกำหนดช่วงเวลาปิดพักเครื่องในแต่ละวัน ยกตัวอย่างเช่น เลือกปิดเครื่องในช่วงเวลา 12.00-13.00 น. และ 19.00-20.00 น. เพื่อให้แอร์ได้พักการใช้งาน
นอกจากนี้ แอร์บางยี่ห้อในปัจจุบันยังสามารถตั้งเวลาเพื่อให้แอร์เปิด-ปิดเองอัตโนมัติได้อีกด้วย ทำให้ไม่ต้องคอยดูเวลาเพื่อเปิด-ปิดแอร์เองให้วุ่นวาย นับว่าสะดวกสบายมากทีเดียว
2. คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงาน เพราะแผงวงจรเสีย
การใช้งานแอร์ควรใช้งานอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะการเปิด-ปิดเครื่องอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพราะการปิดแอร์ด้วยการสับคัตเอาต์ทันที ไม่ได้กดปิดเครื่องผ่านทางรีโมตแอร์ก่อน อาจทำให้แผงวงจรเสียหายได้ เนื่องจากไฟกระชากจนเกิดการสะสมความร้อนภายในเครื่อง ส่งผลให้คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงานนั่นเอง
แต่ทั้งนี้ นอกจากการใช้งานแอร์ที่ไม่ถูกต้องแล้ว อุบัติเหตุที่ไม่สามารถควบคุมได้บางอย่างเองก็อาจส่งผลให้แผงวงจรเสีย จนคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงานได้เช่นกัน ได้แก่ น้ำรั่ว, ฝนสาด และการเกิดไฟฟ้าดับหรือไฟตกอยู่บ่อยครั้ง
วิธีแก้ปัญหาจากความเสียหายของแผงวงจร
วิธีแก้ไขหรือหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงานเนื่องจากความเสียหายของแผงวงจรคือ การเปิด-ปิดแอร์อย่างถูกวิธี โดยปิดเครื่องด้วยรีโมตก่อนที่จะสับคัตเอาต์ รวมถึงหมั่นตรวจสอบคอมเพรสเซอร์แอร์อยู่เสมอว่าเกิดความเสียหายหรือไม่ เพื่อรักษาซ่อมแซมให้คอมเพรสเซอร์แอร์อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานตลอดเวลา
3. คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงาน เพราะ BTU แอร์ไม่เหมาะสม
สิ่งที่จำเป็นต้องพิจารณาเป็นอันดับแรกเมื่อเลือกซื้อแอร์มาติดตั้งภายในบ้านสักเครื่องก็คือขนาด BTU ของแอร์นั่นเอง เพราะแอร์จะสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อมีขนาด BTU ที่เหมาะสมกับขนาดของห้องที่ต้องการจะติดตั้ง เพราะการแอร์ที่มีขนาด BTU เล็กเกินกว่าขนาดห้องจะทำให้แอร์ไม่เย็น และทำให้แอร์ทำงานหนักเกินไปเนื่องจากสามารถปรับอุณหภูมิภายในห้องให้เย็นได้ช้า จนส่งผลให้คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงาน
วิธีแก้ปัญหาจาก BTU แอร์ที่ไม่เหมาะสม
คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงานเนื่องจาก BTU แอร์ไม่เหมาะสมนั้น สามารถแก้ไขได้โดยการเลือกซื้อแอร์ที่มีขนาด BTU เหมาะสมกับขนาดของห้องที่ต้องการติดตั้ง เพื่อไม่ให้แอร์ต้องทำงานหนักเกินไปจนส่งผลให้คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงาน โดย BTU ของแอร์แต่ละขนาดจะเหมาะสมกับขนาดของห้องดังต่อไปนี้
แอร์ขนาด 9,000 BTU เหมาะสมกับพื้นที่ห้องขนาด 9-14 ตารางเมตร
แอร์ขนาด 12,000 BTU เหมาะสมกับพื้นที่ห้องขนาด 10-18 ตารางเมตร
แอร์ขนาด 18,000 BTU เหมาะสมกับพื้นที่ห้องขนาด 16-26 ตารางเมตร
แอร์ขนาด 24,000 BTU เหมาะสมกับพื้นที่ห้องขนาด 21-34 ตารางเมตร
4. คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงาน เพราะไฟรั่วหรือโอเวอร์โหลด
ปัญหาไฟรั่วหรืออาการโอเวอร์โหลดของคอมเพรสเซอร์แอร์ นับเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงานได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นปัญหาที่ส่งผลให้มอเตอร์ภายในคอมเพรสเซอร์แอร์มีความร้อนสูงอยู่ตลอดเวลา และที่สำคัญคือ นอกจากปัญหาไฟรั่วหรืออาการโอเวอร์โหลดจะทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงานแล้ว ยังเป็นสาเหตุให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย
วิธีแก้ปัญหาจากสาเหตุไฟรั่วหรือโอเวอร์โหลด
สำหรับการแก้ไขปัญหาคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงานเนื่องจากไฟรั่วหรือมีอาการโอเวอร์โหลดนั้น จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขโดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งจะตรวจสอบอาการด้วยมิเตอร์วัดกระแสและวัดระดับความร้อนของคอมเพรสเซอร์แอร์ เพื่อให้ทำการแก้ไขซ่อมแซมได้อย่างตรงจุด
5. คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงาน เพราะคัตเอาต์เสื่อม
สิ่งของทุกอย่างเมื่อกาลเวลาผ่านไปนาน ๆ เข้า ย่อมต้องเกิดการเสื่อมสภาพลง และในที่นี้ก็รวมไปถึงคัตเอาต์ด้วยเช่นกัน ซึ่งปัญหาคัตเอาต์เสื่อมมักพบได้บ่อยในบ้านหลังเก่า ดังนั้นจึงควรตรวจสอบสภาพคัตเอาต์อยู่เสมอ และรีบทำการเปลี่ยนใหม่ทันทีเมื่อพบว่าเกิดการเสื่อมสภาพหรือชำรุด เนื่องจากการที่คัตเอาต์เสื่อมสภาพจะทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงาน ทั้งยังอาจส่งผลให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรอีกด้วย
วิธีแก้ปัญหาจากการเสื่อมสภาพของคัตเอาต์
วิธีการแก้ปัญหาหรือหลีกเลี่ยง ไม่ให้เกิดเหตุการณ์คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงานเนื่องจากคัตเอาต์เสื่อมนั้น สามารถทำได้ด้วยการตรวจสอบสภาพของคัตเอาต์อยู่เสมอ ว่าพร้อมใช้งานหรือไม่ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากแรงดันขาเข้าและแรงดันขาออกของคัตเอาต์ โดยปกติแล้วแรงดันขาเข้า-ขาออกจะอยู่ที่ 220 โวลต์เท่า ๆ กัน แต่ถ้าหากตรวจสอบแล้วแรงดันขาเข้า-ขาออกต่ำกว่า 220 โวลต์ให้รีบเปลี่ยนคัตเอาต์ใหม่ทันที
6. คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงาน เพราะสตาร์ตเตอร์เสีย
เมื่อสตาร์ตเตอร์แอร์เกิดความเสียหายขึ้น จะส่งผลให้คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงานทันที โดยสามารถสังเกตอาการได้ว่า คอมเพรสเซอร์แอร์จะมีเสียงในตอนเปิดเครื่องก่อนที่จะดับลงในเวลาต่อมา รวมถึงความเย็นที่เคยปล่อยออกมาจากแอร์ก็ค่อย ๆ ลดน้อยลงจนเหลือเพียงแต่ลมเท่านั้น
วิธีแก้ปัญหาจากความเสียหายของสตาร์ตเตอร์
วิธีแก้ปัญหาคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงาน เนื่องจากสตาร์ตเตอร์แอร์เสียนั้นก็คือ การรีบหาซื้อสตาร์ตเตอร์แอร์มาเปลี่ยนใหม่ทันที แต่ทั้งนี้การเปลี่ยนสตาร์ตเตอร์แอร์เองก็จำเป็นต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่มีความชำนาญมากพอ ดังนั้น สำหรับผู้ที่เผชิญปัญหาแต่ไม่ได้มีความชำนาญในด้านนี้ ควรเรียกใช้บริการจากช่างแอร์ที่เชี่ยวชาญมาแก้ไขปัญหาคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงานจะดีกว่า เพื่อให้ปัญหาได้รับการแก้ไขอย่างตรงจุด