Doctor At Home: ผมร่วงจากเชื้อรา อาการ ผมร่วงจากเชื้อรา หรือที่รู้จักกันในชื่อ กลากที่หนังศีรษะ (Tinea Capitis) หรือ ชันนะตุ นั้น เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในเด็ก ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษาอย่างถูกต้อง อาจทำให้เกิดแผลเป็นและส่งผลให้ผมร่วงแบบถาวรได้ค่ะ
นี่คือสาเหตุ อาการ และวิธีการรักษาผมร่วงจากเชื้อราที่สำคัญ:
1. สาเหตุของการติดเชื้อราที่หนังศีรษะ
โรคนี้เกิดจากการติดเชื้อราในกลุ่ม เดอร์มาโตไฟต์ (Dermatophytes) โดยเฉพาะสายพันธุ์ Microsporum และ Trichophyton ซึ่งเจริญเติบโตได้ดีในเคราติน (โปรตีนที่เป็นองค์ประกอบหลักของเส้นผมและผิวหนัง)
การติดต่อ:
คนสู่คน: ผ่านการสัมผัสโดยตรง หรือการใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น หวี, หมวก, ผ้าเช็ดตัว, หรือปลอกหมอน
สัตว์สู่คน: ติดต่อจากสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว หรือสัตว์ฟาร์มที่มีเชื้อราอยู่
ปัจจัยกระตุ้น: ความอับชื้นบนหนังศีรษะ, การสระผมแล้วเช็ดผมไม่แห้งสนิท, ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ, หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนชื้น
2. อาการหลักที่บ่งชี้ว่าผมร่วงจากเชื้อรา
อาการของเชื้อราที่หนังศีรษะอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่จะมีลักษณะเด่นที่สังเกตได้ชัดเจน:
ลักษณะอาการ รายละเอียด
ผมร่วงเป็นหย่อม ๆ ผมจะร่วงเป็นวงกลม หรือเป็นหย่อม ๆ อย่างชัดเจน มักเห็นบริเวณที่มีผมร่วงเป็นขุยหรือสะเก็ดสีขาวเทา
ผมเปราะและหักง่าย เส้นผมบริเวณที่ติดเชื้อจะอ่อนแอ เปราะ และหักที่ระดับใกล้หนังศีรษะ ทำให้เห็นเป็น ตอผมจุดสีดำ ๆ (Black Dot Sign)
มีขุย/รังแคมาก หนังศีรษะจะแห้ง ลอกเป็นขุย หรือมีสะเก็ดรังแคมากผิดปกติ ซึ่งไม่หายไปแม้ใช้แชมพูขจัดรังแคทั่วไป
คันอย่างรุนแรง มีอาการคันหนังศีรษะมาก เกาแล้วยิ่งทำให้อักเสบและเป็นแผล
ผิวหนังอักเสบ ในกรณีที่รุนแรง (เรียกว่า ชันนะตุ) อาจเกิดการอักเสบ บวมแดง มีตุ่มหนอง หรือฝีบนหนังศีรษะ (Kerion) ซึ่งอาจมีไข้ต่ำ ๆ ร่วมด้วย
3. วิธีการรักษาผมร่วงจากเชื้อรา (จำเป็นต้องพบแพทย์)
การรักษาเชื้อราที่หนังศีรษะมักต้องใช้ยาหลายชนิดร่วมกัน และไม่สามารถหายได้ด้วยยาทาภายนอกเพียงอย่างเดียว เพราะเชื้อราแทรกซึมเข้าไปในรากผม
การรักษาหลัก (ควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์)
ยารับประทานต้านเชื้อรา (Oral Antifungal Medications):
เป็นการรักษาหลักที่สำคัญที่สุด เพราะยาจะเข้าไปทำลายเชื้อราที่อยู่ในรูขุมขนและเส้นผม
ยาที่ใช้บ่อย ได้แก่ Griseofulvin, Terbinafine, Itraconazole
ต้องรับประทานต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 4-8 สัปดาห์ หรือตามที่แพทย์กำหนดอย่างเคร่งครัด
แชมพูยาต้านเชื้อรา (Antifungal Shampoo):
ใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของสารฆ่าเชื้อรา เช่น Ketoconazole (2%) หรือ Selenium Sulfide
ช่วยกำจัดสปอร์ของเชื้อราบนผิวหนังศีรษะและเส้นผม ลดการแพร่กระจายเชื้อ
วิธีการใช้: ฟอกทิ้งไว้บนหนังศีรษะประมาณ 5-10 นาที ก่อนล้างออก และใช้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ตามคำแนะนำของแพทย์
การดูแลและป้องกันการแพร่เชื้อ
รักษาความสะอาด: สระผมให้สะอาดและ เช็ดหรือเป่าผมให้แห้งสนิททุกครั้ง หลังสระผมและหลังออกกำลังกาย
ซักทำความสะอาด: ซักผ้าเช็ดตัว ปลอกหมอน และเครื่องนอนด้วยน้ำร้อนเพื่อฆ่าเชื้อ
ไม่ใช้ของร่วมกัน: หลีกเลี่ยงการใช้หวี, ผ้าเช็ดตัว, หมวก, หรือที่หนีบผมร่วมกับผู้อื่น
หากมีสัตว์เลี้ยง: ควรนำสัตว์เลี้ยงไปตรวจหาเชื้อรากับสัตวแพทย์ หากพบว่าติดเชื้อต้องรักษาควบคู่กัน
ข้อควรเน้น: หากคุณสงสัยว่าผมร่วงเกิดจากเชื้อรา ควรรีบปรึกษาแพทย์ผิวหนัง โดยเร็วที่สุด เพื่อรับการวินิจฉัยที่แม่นยำ (โดยการขูดผิวหนังไปตรวจ) และเริ่มการรักษาด้วยยาอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการเกิดผมร่วงแบบถาวรค่ะ