5 กลุ่มอาการ ที่เข้าข่ายเป็น “โรคไต” โรคไตของเรามีอยู่ 5 กลุ่มด้วยกัน ก็คือ
กลุ่มที่ 1 เริ่มจากการที่มีปัสสาวะที่ผิดปกติ มักจะไม่มีอาการอะไรเลย จะตรวจพบได้ในปัสสาวะ เช่น มีเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขวา โปรตีนปะปนในปัสสาวะ
กลุ่มที่ 2 ภาวะไตบวมน้ำ ซึ่งกลุ่มนี้ก็จะมีอาการ ขาบวม ตาบวม หนังตาบวม ปัสสาวะเป็นฟอง
กลุ่มที่ 3 ไตอักเสบ กลุ่มนี้ก็คือ จะมีความดันที่สูงขึ้นมีปัสสาวะมีสีน้ำล้างเนื้อ หรือมีเลือดปนมา
กลุ่มที่ 4 ไตวายเฉียบพลัน
และกลุ่มที่ 5 ไตวายเรื้อรัง สองกลุ่มนี้ถ้าสมมุติว่าเริ่มต้นเป็นไตวายระยะเริ่มต้นมันจะไม่มีอาการอะไรเลย จนกระทั่งมีไตวายแบบคอนข้างเยอะแล้ว เป็นระยะที่ 4 ที่ 5 ในระยะนี้ก็จะเริ่มมีภาวะ ซึมลง มีเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน หายใจมีกลิ่นปัสสาวะ ถ้าสมมุติมีอาการเหล่านี้ดังที่บอกไป ต้องรีบมาตรวจกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาสาเหตุ
ในการตรวจหาความผิดปกติของไต เราก็จะตรวจปัสสาวะเป็นหลัก ซึ่งปัสสาวะจะบอกโรคได้หลายชนิดเลยไม่ว่าจะเป็นแบบไม่มีอาการเลยคือกลุ่มที่ 1 หรือ ภาวะบวมน้ำ เราก็จะรู้จากการตรวจปัสสาวะ หรือ เรื่องไตอักเสบอันนี้ก็รู้จากปัสสาวะเช่นกัน นอกจากตรวจปัสสาวะแล้ว จะตรวจเลือดดูค่าของเสีย ก็คือการทำงานว่าไตทำงานได้กี่เปอร์เซ็น ซึ่งอันนี้เอาไว้ดูว่ามีไตวายไปหรือยัง และเป็นระยะที่เท่าไร วิธีการตรวจเลือดก็จะตรวจหาค่า BUN และ CREATNINE ซึ่งสองอันนี้เป็นค่าของเสียที่คั่งอยู่ในเลือด
ดังนั้นอย่างที่บอกว่าว่า โรคไต ไม่จำเป็นที่ต้องมีอาการตั้งแต่เริ่มแรก ก็อยากจะให้คนทุกคนมีการมาตรวจเช็คร่างกาย และตรวจปัสสาวะ ตรวจเลือด หรือ แม้กระทั่งการตรวจพิเศษ เช่น การอัลตร้าซาวด์ หาความผิดปกติว่ามีความผิดปกติอะไรหรือเปล่า ถ้าสมมุติมีความผิดปกติเราก็จะได้หาสาเหตุว่าสาเหตุนั้นเกิดจากอะไร ก็จะได้แก้ไขที่สาเหตุ ถ้าเราสามารถแก้ไขได้ก่อนที่จะเป็นไตวายแบบเรื้อรัง มันสามารถรักษาให้หายขาด แต้ถ้าสมมุติเราปล่อยทิ้งไว้เอาไว้ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่ 1,2,3,4 ปล่อยทิ้งเอาไว้นานๆ สุดท้ายแล้วก็จะกล้ายเป็นกลุ่มที่ 5 ก็คือไตวายเรื้อรัง ซึ่งก็จะทำให้การรักษายากขึ้นไปอีก